Shopee, Lazada หรือ D2C? ขายที่ไหนดีกว่ากัน

ความแตกต่างระหว่างการขายใน Shopee, Lazada และ D2C 

ทุกวันนี้เจ้าของแบรนด์ยุคใหม่มีทางเลือกมากขึ้นในการวางสินค้าในตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ใน Marketplace ใหญ่ระดับประเทศอย่าง Shopee และ Lazada หรือการเปิดเว็บไซต์ของตัวเองในรูปแบบ D2C (Direct-to-Consumer) 

แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ขายที่ไหนดีกว่า?” หรือ “ควรใช้ทุกช่องทางเลยมั้ย?” 

บทความนี้จะพาคุณเปรียบเทียบข้อดี-ข้อจำกัดของแต่ละแพลตฟอร์ม และแนะแนวทางในการเลือกช่องทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ 

จุดเด่นของ Shopee และ Lazada 

Shopee 

จำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย (MAU สูงกว่า Lazada) 

• เน้น Campaign แบบ Flash Sale และ CPAS โฆษณาเชิง Performance 

• ระบบ Shopee Live และ Shopee Feed สร้างการมีส่วนร่วมได้ดี 

• Shopee MyAds ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น 

Lazada 

• Conversion Rate สูง ในหมวดแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ 

• ระบบโปรโมชั่นยืดหยุ่น เช่น Lazada Bonus, Free Shipping Max 

• ค่าธรรมเนียมบางส่วนต่ำกว่าคู่แข่ง (ขึ้นอยู่กับหมวดสินค้า) 

• LazLive + Affiliate สามารถผลักดันยอดขายได้อย่างมีระบบ 

จุดร่วม: ทั้งสองแพลตฟอร์มมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีระบบสนับสนุนผู้ขาย มีโฆษณาในตัว และมีกิจกรรม Campaign ใหญ่ตลอดปี (เช่น 9.9, 11.11) 

โมเดล D2C คืออะไร และมีข้อดีคืออะไร 

D2C (Direct to Consumer) คือการที่แบรนด์ขายตรงถึงลูกค้า โดยไม่ผ่านตัวกลางหรือ Marketplace 

ตัวอย่างช่องทาง D2C: 

• เว็บไซต์ของแบรนด์ (Shopify, WooCommerce, Magento) 

• Social Commerce (LINE OA, Facebook Shop, Instagram Checkout) 

• Application ของแบรนด์ 

ข้อดีของ D2C: 

• เก็บข้อมูลลูกค้าได้เต็มรูปแบบ: ใช้ทำ CRM, Loyalty Program, Upsell/Cross-sell 

• ควบคุมประสบการณ์การซื้อ: UX/UI, โปรโมชั่น, แพ็กเกจ 

• กำไรต่อหน่วยสูงกว่า: ไม่มีค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม 

• ทำ SEO + Retargeting ได้อย่างอิสระ 

ข้อจำกัดของ D2C: 

• ต้องสร้าง Traffic เอง 

• ใช้ต้นทุนด้านระบบและทีมมากกว่า 

• ต้องมีทีม CS และ Logistic พร้อม 

แนะนำการเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับแบรนด์ 

ประเภทแบรนด์ 

แนะนำช่องทางหลัก 

เหตุผล 

แบรนด์ใหม่ / งบน้อย 

Shopee / Lazada 

มีฐานลูกค้าพร้อม มีระบบช่วยโปรโมทสินค้า 

แบรนด์ที่มีฐานแฟนเอง 

D2C + Marketplace 

ใช้ Marketplace ดึงลูกค้าใหม่, D2C รักษาลูกค้าเก่า 

สินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche) 

D2C 

ควบคุมคอนเทนต์ได้ดีกว่า ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย 

แบรนด์ Mass / ของใช้ทั่วไป 

Marketplace + D2C 

ใช้ Marketplace ขยายยอด, D2C เก็บข้อมูล/กำไร 

แนวทางการผสมผสาน: 

• ใช้ Marketplace สำหรับดึงลูกค้าใหม่ และสร้าง Awareness 

• ส่งเสริมลูกค้าให้ซื้อซ้ำผ่าน D2C ด้วยคูปองส่วนลด, คะแนนสะสม 

• จัดระบบ Fulfillment และสต็อกให้เชื่อมกันระหว่างช่องทาง 

บริการ One-Stop Ecommerce ช่วยดูแลทั้ง 2 ช่องทางได้อย่างไร 

หลายแบรนด์เลือกให้บริษัทผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลทั้ง Marketplace และ D2C ในรูปแบบ “One-Stop Ecommerce” 

transcosmos Thailand มีจุดเด่นในการดูแลทั้งสองช่องทางควบคู่กัน: 

• วางกลยุทธ์ Campaign พร้อมกันทั้ง Shopee, Lazada และ D2C Website 

• ทีม Creative, Ads, Customer Service และ Operation ทำงานสอดประสาน

• ระบบ OMS/WMS/CRM เชื่อมข้อมูลทุกช่องทางแบบเรียลไทม์ 

• Dashboard แสดงผลยอดขายรวม และแยกตามช่องทางได้ทันที 

• Case Study จากแบรนด์จริง เช่น การใช้ Marketplace Drive Traffic แล้ว Retarget ผ่าน D2C 

ต้องการขยายธุรกิจทั้งบน Marketplace และ D2C พร้อมกัน? ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจรจาก transcosmos

สรุป: ไม่ใช่ “ขายที่ไหน” แต่ต้อง “ขายอย่างไรในทุกที่ให้สอดคล้องกัน” 

การเลือกช่องทางขายไม่ใช่เรื่องของการเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือการออกแบบ Ecosystem ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าและเป้าหมายแบรนด์ 

ธุรกิจที่จัดการทั้ง Marketplace และ D2C อย่างมีระบบ จะได้เปรียบด้านข้อมูล กำไร และความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว