3 แพลตฟอร์ม Live Commerce ยอดนิยม: Lazada, Shopee และ Tiktok live ไลฟ์อันไหนดีกว่ากัน?
3 แพลตฟอร์ม Live Commerce ยอดนิยม: Lazada, Shopee และ Tiktok live ไลฟ์อันไหนดีกว่ากัน?
ในโลกของ e commerce live ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การทำ ไลฟ์สดขายของ ได้กลายเป็นเครื่องมือทำเงินที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ แต่คำถามที่นักการตลาดและผู้ขายออนไลน์หลายคนยังคงสงสัยคือ “ควรเลือกไลฟ์บนแพลตฟอร์มไหนดี?” ระหว่าง Lazada, Shopee และ TikTok ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกความต่างของทั้ง 3 แพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ Live Commerce ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
ทำไมต้องเข้าใจความต่างของแต่ละแพลตฟอร์ม Live Commerce
การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการทำ ไลฟ์ขายของ ให้ประสบความสำเร็จ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีพฤติกรรมผู้บริโภคที่แตกต่างกัน รวมถึงฟีเจอร์และระบบหลังบ้านที่ไม่เหมือนกัน หากคุณเลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและลักษณะของสินค้า ก็จะช่วยให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการลองผิดลองถูกและในขณะเดียวกันก็ทำ kol marketing หรือใช้ influencer บนแพลตฟอร์มที่เหมาะสมก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำได้ดียิ่งขึ้นด้วย
Shopee Live: เน้นยอดขายตรง กลุ่มเป้าหมายชัดเจน
Live Shopee ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะแพลตฟอร์ม Live Commerce ที่เน้นการขายสินค้าโดยตรง ผู้ชมส่วนใหญ่บน Shopee เป็นกลุ่มที่ตั้งใจมาซื้อของอยู่แล้ว ทำให้การตัดสินใจซื้อในไลฟ์เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว
จุดเด่นของ Shopee Live:
-
ฐานลูกค้าพร้อมซื้อ: ผู้ใช้ Shopee เป็นกลุ่มที่คุ้นเคยกับการช้อปปิ้งออนไลน์อยู่แล้ว ทำให้ Conversion Rate จากการไลฟ์สูง
-
ฟีเจอร์การขายครบครัน: มีระบบตะกร้าสินค้าในไลฟ์ที่ใช้งานง่าย ลูกค้าสามารถกดสั่งซื้อได้ทันที
-
โปรโมชันจูงใจ: มีระบบ Flash Deal, ส่วนลด, และเหรียญ Shopee ที่กระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าทันทีในไลฟ์
ข้อควรพิจารณา:
-
การแข่งขันสูง: มีผู้ขายจำนวนมากทำให้การแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ชมสูง
-
เน้นการขายสินค้า: เนื้อหาในไลฟ์ส่วนใหญ่จะเน้นการขายเป็นหลัก ทำให้การสร้างแบรนด์หรือคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์อาจทำได้ยากกว่า
Lazada Live: สร้างแบรนด์ควบคู่ไปกับการขาย
Lazada เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม e commerce live ยักษ์ใหญ่ที่มีฟีเจอร์ไลฟ์ที่น่าสนใจ Lazada Live เน้นการผสมผสานระหว่างการให้ความบันเทิงและการขาย ทำให้แบรนด์สามารถสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ดีขึ้น
จุดเด่นของ Lazada Live:
-
สร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์: มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้แบรนด์สร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจได้มากขึ้น เช่น การนำเสนอสินค้าแบบโชว์เคส
-
ฐานลูกค้าหลากหลาย: มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
-
ใช้ KOL เพื่อสร้างความน่าสนใจ: Lazada Live เป็นอีกช่องทางที่เหมาะสำหรับใช้ kol marketing เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชม
ข้อควรพิจารณา:
-
การตัดสินใจซื้ออาจไม่รวดเร็วเท่า: แม้จะมียอดผู้ชมสูง แต่ Conversion Rate อาจไม่สูงเท่า Shopee Live เนื่องจากผู้ชมส่วนหนึ่งเข้ามาเพื่อชมคอนเทนต์มากกว่าการซื้อสินค้า
-
ระบบหลังบ้านซับซ้อนกว่า: การจัดการโปรโมชันและระบบการขายอาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้มากกว่าเล็กน้อย
TikTok Live: สร้างกระแสและดึงดูดลูกค้าใหม่แบบเรียลไทม์
TikTok Live กลายเป็นแพลตฟอร์ม Live Commerce ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ ด้วยจุดเด่นของอัลกอริทึมที่สามารถนำเสนอคอนเทนต์ไปยังผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมหาศาล
จุดเด่นของ TikTok Live:
-
การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่มหาศาล: อัลกอริทึมของ TikTok จะช่วยดัน tiktok livestream ของคุณไปยังกลุ่มคนที่สนใจโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าโฆษณามาก
-
สร้างปฏิสัมพันธ์แบบ Real-time: ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมกับ live tiktok ของคุณได้อย่างรวดเร็วผ่านการคอมเมนต์และส่งของขวัญ
-
คอนเทนต์มีเสน่ห์: TikTok Live เปิดโอกาสให้ผู้ขายสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ทำให้ผู้ขายสามารถสร้างตัวตนหรือบุคลิกที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา:
-
เน้นคอนเทนต์สร้างสรรค์: หากเนื้อหาไม่น่าสนใจหรือไม่มีเอกลักษณ์ อาจทำให้ผู้ชมปัดผ่านได้ง่าย
-
ยอดขายไม่แน่นอน: แม้จะมีผู้ชมจำนวนมาก แต่ยอดขายอาจไม่แน่นอนเท่าแพลตฟอร์ม e commerce live อื่นๆ เนื่องจากผู้ชมบางส่วนเข้ามาเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก
กลยุทธ์การทำ Live Commerce ให้ประสบความสำเร็จ: KOL, Influencer และ Live Stream
ไม่ว่าคุณจะเลือกแพลตฟอร์มไหนก็ตาม การทำ ไลฟ์สด ให้ปังต้องมีกลยุทธ์ที่รอบด้าน การใช้ อินฟลูเอนเซอร์ หรือ kol ในการทำ influencer marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ลองมาดูว่าแบรนด์สมมุติจะเลือกแพลตฟอร์มการไลฟ์อย่างไรให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตน
- แบรนด์ A: "สินค้าแม่และเด็ก" - เลือก Lazada และ Shopee
แบรนด์ A ต้องการขายสินค้าประเภทแม่และเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อสินค้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว ทีมการตลาดจึงตัดสินใจเน้นการทำ Live Commerce บน Lazada และ Shopee เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าตั้งใจเข้ามาซื้อของโดยเฉพาะ และการ ไลฟ์สด สามารถเน้นการสาธิตสินค้าและการให้ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างเต็มที่ การ หา influencer จึงมุ่งไปที่ อินฟลู ประเภทคุณแม่รีวิว หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูเด็ก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า
- แบรนด์ B: "เครื่องสำอางแบรนด์ใหม่" - เลือก TikTok Live
แบรนด์ B เป็นแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ที่ต้องการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น ทีมการตลาดมองว่า TikTok Live เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ที่สุด เนื่องจากมีอัลกอริทึมที่ทรงพลังในการดัน ไลฟ์ ให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ต้นทุนในการ kol marketing ไม่สูงเท่าแพลตฟอร์มอื่น การ หา influencer จึงเน้นไปที่ อินฟลูเอนเซอร์ คือ บิวตี้บล็อกเกอร์หรือไลฟ์สไตล์ อินฟลู ที่มีสไตล์การแต่งหน้าจัดจ้าน เพื่อสร้างสรรค์เนื้อหา tiktok livestream ที่ดึงดูดความสนใจและสร้างกระแส
- แบรนด์ C: "นาฬิกาหรู" - เลือกไลฟ์บน Lazada และเน้น KOL Marketing
แบรนด์ C ต้องการขายนาฬิกาหรู ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาสูงและลูกค้าต้องการความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ทีมการตลาดจึงเลือกทำ Live Commerce บน Lazada Live โดยเน้นกลยุทธ์ kol marketing เป็นพิเศษ เพราะ Lazada ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มขายสินค้า แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างเรื่องราวและคอนเทนต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ การ หา influencer จึงมุ่งไปที่ kol คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา หรือนักสะสมที่มีความรู้ลึกซึ้ง ซึ่งการไลฟ์ร่วมกับ kol influencer เหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังของสินค้าได้อย่างมีระดับและน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าที่กำลังพิจารณาสินค้าที่มีราคาสูงรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น อีกทั้งระบบของ Lazada ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถกดติดตามร้านค้าและกลับมาซื้อซ้ำได้ในอนาคต
สรุป: เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ด้วยการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน
Live Commerce บน Lazada, Shopee, และ TikTok ล้วนมีจุดเด่นของตัวเอง การจะเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ลักษณะสินค้า และงบประมาณในการทำการตลาดของคุณ
หากคุณต้องการทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยวางแผนกลยุทธ์ KOL Marketing ให้คุณครบวงจรตั้งแต่การเลือก influencer ไปจนถึงการวัดผล 👉🏼 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ KOL Marketing จาก transcosmos ได้ที่นี่
📚อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
5 KPIs ที่จำเป็นต้องเข้าใจ ในการวัดผลประสิทธิภาพ Live Commerce ได้อย่างถูกจุด
3 ข้อที่คนทำ Live Commerce ต้องรู้: ทำไมต้องมีทีม Live Specialist